icon ประวัติมงคลกรุ๊ป

mongkol3.jpg

กำเนิดกิจการติดตั้งแก๊ส

มงคลออโต้แก๊ส เริ่มก่อตั้งขึ้น ในปี 2548 โดยมี อาปา หรือ คุณวิสูตร จันทรอมรกุล เป็นผู้ริเริ่มความคิดที่จะจัดตั้งอู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์ขึ้น โดยมีที่มาจากการนำรถ Honda Civic ที่ ตนเองใช้งานอยู่ไปติดตั้งระบบแก๊ส กับ อู่รุ่งเรืองคาร์แก๊ส ซึ่งเป็นอู่ที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งในย่านรังสิต และในขณะนั้น มีผู้นิยมนำรถมาติดตั้งเป็นจำนวนมาก

โดยเมื่อได้ติดตั้งแก๊สไปแล้ว พบว่าช่วยประหยัดมากทีเดียว จึงได้แนะนำให้ลูกเขย คือ อามง หรือ คุณมงคล วรวิชญาวิวัฒน์ ได้นำรถยนต์ BMW 318i ของตนไปติดตั้งแก๊สบ้าง ซึ่งก็แน่นอนว่า เมื่อติดตั้งแก๊สแล้ว ก็ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงไปมากกว่า 50% นั่นคือ เดิมใช้งานอยู่วันละ 400 บาท เหลือเพียง 170 บาท เท่านั้น

จึง เป็นที่มาให้ อาปา และ คุณมงคล เริ่มความคิดที่จะดำเนินธุรกิจติดตั้งแก๊สรถยนต์ขึ้น โดย คุณมงคล และ ช่างโย่ง ซึ่งเป็นช่างคนแรกของกิจการ ได้ กลับไปขอวิชาความรู้การติดตั้งแก๊ส จาก คุณรุ่งเรือง … เจ้าของอู่รุ่งเรืองคาร์แก๊ส ซึ่งขณะนี้ ได้กลายเป็นอาจารย์รุ่งเรือง ของพวกเราแล้ว โดยทั้ง2 คน ได้มีโอกาสศึกษาขั้นตอนการติดตั้งแก๊ส ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ การเดินสายไฟ และการติดตั้งถังแก๊ส จนกระทั่งมีความเข้าใจในระดับหนึ่งแล้ว จึงเป็นเวลาอันควรที่จะได้เริ่มต้นธุรกิจนี้ต่อไป

mongkol8-1.jpg

แก๊ส-คาร์-เทพารักษ์ จุดเริ่มต้นของเรา

เริ่ม ต้น คุณมงคล และพ่อตา ก็ได้รับคำปรึกษาจาก คุณศิริพร วรวิชญาวิวัฒน์ ภรรยา และ คุณบุญมี จันทรอมรกุล แม่ยาย ทั้งในแง่ทำเล การหาทีมงาน และ เงินลงทุนเริ่มต้น จนกระทั่งกลายเป็น อู่ติดตั้งแก๊สรถยนต์แห่งแรกของเรา บนถนนเทพารักษ์ กม. 2.5 ภายใต้ชื่อ “แก๊ส-คา ร์-เทพารักษ์” ซึ่งคุณมงคล ตั้งขึ้นโดยต้องการให้เป็นชื่อที่จำง่าย และสื่อสารครบถ้วน นั่นคือ เป็นธุรกิจแก๊ส ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ (สมัยนั้นคนยังไม่รู้จักแก๊สรถยนต์ LPG, NGV) และตั้งอยู่บนถนนเทพารักษ์ โดยใช้สถานที่เป็นชั้นล่างของตึกแถว 2 ห้อง ติดกับโรงนวดแผนโบราณ จอดรถได้ 3 คัน และเปิดเป็นทางการในวันที่ 28 ตุลาคม 2548 ซึ่งเราจำได้ดีว่า มีลูกค้ารายแรก เป็นพี่แท็กซี่สีฟ้าใจดี ชื่อ คุณอนงค์ บุญเงิน นำรถเข้ามาติดตั้ง ระบบดูด LPG กับเรา ซึ่งเราถือเป็นผู้มีพระคุณของเรา ที่ทำให้เราได้เริ่มต้นและดำเนินกิจการมาจนถึงทุกวันนี้

ยุคที่ 1 : ติดตั้งระบบดูด LPG ( ต.ค. 2548 )

ตั้งแต่เริ่มดำเนินการ อู่ แก๊ส-คาร์-เทพารักษ์ เราจะติดตั้งเฉพาะระบบดูด LPG ซึ่งในขณะนั้นเป็นระบบที่ได้รับความนิยมโดยทั่วไป แม้ว่าจะมี ระบบหัวฉีด LPG ( ราคาสูงมาก ) และ ระบบ NGV ( ยังไม่เป็นที่รู้จัก ) ก็ตาม โดยรถรุ่นแรกๆที่เราติดตั้ง มักเป็นรถญี่ปุ่นรุ่นเก่าๆ ทั้ง Toyota , Honda หรือ รถรุ่นที่กินแก๊สเยอะๆ อย่างเช่น Cefiro, Volvo 940, Benz เครื่อง KE-Jet ทั้งหลาย และ Jeep Cherokee เป็นต้น โดยใช้ทีมงานติดตั้ง 3 คน คือ คุณมงคล ช่างโย่ง และ ช่างหนุ่ม ที่ร่วมกันดำเนินการแบบสไตล์ อู่ริมถนน ที่เราพบเห็นได้โดยทั่วไป

mongkol9.jpg

สาขา 2 เริ่มใช้ชื่อ “มงคลออโต้แก๊ส”

เมื่อเริ่มดำเนินการอู่ติดตั้งแห่งแรกไปได้ประมาณ 2 เดือน อาปา ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่หยุดนิ่ง ก็ได้มีแนวคิดในการขยายกิจการไปสู่แห่งที่สอง เพื่อรองรับการขยายตัวของความต้องการติดตั้งแก๊ส ที่มีมากขึ้นในขณะนั้น และด้วยเหตุที่ คุณแม่บุญมี ให้คำปรึกษาว่า ต้องการให้ใช้ชื่อไทย ที่จำง่าย โดยน่าจะเป็นชื่อบุคคล คล้ายกับ รุ่งเรืองคาร์แก๊ส แบบของอาจารย์ของเรา จึงทำให้ เราได้ อู่ติดตั้งแห่งที่สอง บนถนนศรีนครินทร์ ที่ใช้ชื่อว่า “มงคลออโต้แก๊ส” ( ตอนแรกจะเป็น วิสูตรออโต้แก๊ส ) โดยเป็นตึกแถวขนาด 2 ห้องเช่นเดิม แต่มีพื้นที่ทำงานมากขึ้น จอดรถได้พร้อมกันประมาณ 6 คัน โดยในขณะนี้ เรามีช่างติดตั้ง 2 ชุด เพื่อรองรับงานของทั้ง 2 สาขา

ยุคที่ 2 : ติดตั้งระบบดูด NGV ( ก.พ. 2549 )

สถานการณ์น้ำมันไม่ดีขึ้น ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น จนเกือบแตะ 30 บาท กระแสความตื่นตัวในเรื่องแก๊สรถยนต์สูงขึ้น ทำให้ ปตท. เร่งประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะหนังโฆษณาทางทีวี ทำให้ผู้คนรู้จักคำว่า NGV มากขึ้น เป็นเหตุให้เรามีความคิดว่า ควรจะดำเนินการติดตั้งระบบ NGV ด้วย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตลาด และเพื่อให้ได้เริ่มต้นไปพร้อมกับการเปิดอู่ติดตั้งแห่งที่สอง

ดังนั้น ในช่วงแรก สาขาแรก จะรับติดตั้งระบบ LPG อย่างเดียว และ สาขาที่สอง จะรับติดตั้งระบบNGV ด้วย

ยุคที่ 3 : เริ่มติดตั้งระบบหัวฉีด ( พ.ค. 2549 )

ในการดำเนินกิจการของมงคลออโต้แก๊ส ต้องขอบคุณความช่วยเหลือและข้อเสนอแนะที่ได้รับมาตลอดจาก คุณวุธ หรือ คุณสรฉัตร แห่ง Bigas Thailand โดยเฉพาะการให้เราได้รู้จักกับอุปกรณ์แก๊ส ระบบหัวฉีด ที่เราไม่เคยติดตั้งมาก่อน ทำให้เราได้เข้าสู่ยุคที่ 3 ของการติดตั้งระบบแก๊สที่ยกระดับคุณภาพการใช้งานที่สูงขึ้น เราจึงมีผลงานการติดตั้งระบบหัวฉีด มาตั้งแต่บัดนั้น

mongkol6.jpg
ยุคที่ 4 : เปิดโลกระบบแก๊สในเครื่องยนต์ดีเซล ( ก.ค. 2549 )

ด้วย ความสงสัยของคุณมงคล ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจนี้ว่า เครื่องยนต์ดีเซลติดตั้งแก๊สได้หรือไม่ จึงทำให้ติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับการใช้แก๊สในรถ ดีเซลมาตลอด และด้วยความที่เครื่องยนต์เบนซิน มีทางเลือกในการประหยัดอย่างเต็มตัว แต่ เครื่องยนต์ดีเซล ยังต้องทนกับราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ขณะนั้น มีผู้พยายามพัฒนาชุดอุปกรณ์ช่วยประหยัด สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลออกมาหลากหลาย ทั้ง เครื่องอุ่นน้ำมันดีเซลให้ร้อน เครื่องเรียงประจุไฟฟ้า และ ระบบแก๊สสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ที่คุณมงคลได้เปิดรับและนำมาทดลองติดตั้งและเสนอเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า แม้ว่าอู่ติดตั้งโดยทั่วไปยังไม่กล้าที่จะติดตั้งก็ตาม ซึ่ง เป็นจุดเริ่มต้นของประสบการณ์การติดตั้งระบบแก๊สในเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีระบบใหม่ๆ ออกมาเป็นระยะๆ และเราได้ติดตั้งไปเป็นจำนวนมาก จนนำไปสู่การคัดเลือกระบบแก๊สที่ดี และปลอดภัยที่สุดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ในปัจจุบันนี้

ยุคที่ 5 : เข้าสู่ช่วงซบเซา ( ต.ค. 2549 )

ตั้งแต่ราคาน้ำมันขึ้นไปถึงระดับ 30 บาทต่อลิตร จนทำให้ธุรกิจแก๊สรถยนต์บูมมาตั้งแต่ปี 2548 นั้น เมื่อราคาน้ำมันตกลงมาที่ระดับใกล้เคียง 26 บาท ก็ทำให้เกิดผลในทางตรงข้าม นั่นคือ ทุกคนรู้สึกว่า ราคาน้ำมันน่าจะลงไปอีกเรื่อยๆ ทำให้ ผู้ที่ยังไม่ติดแก๊ส ก็หยุดความคิดที่จะติด หรือ อย่างน้อย ชะลอการตัดสินใจไว้ก่อน ซึ่งแน่นอนว่า ทำให้ตลาดการติดตั้งแก๊ส ซบเซาลงโดยทั่วไป ไม่เว้นแม้แต่กิจการของเราด้วย

ช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นช่วงเวลาวัดใจครั้งสำคัญของเราอย่างแท้จริง เนื่องจากจำนวนลูกค้าที่ลดลงไปชนิดที่ว่า เหลือเดือนละไม่ถึง 5 คัน แต่ค่าใช้จ่ายของเรายังเดินหน้าไปเหมือนเดิม เรียกได้ว่า ขาดทุนตลอดทุกวันที่เปิดร้าน ท่ามกลาง ข่าวการปิดกิจการของอู่ติดตั้งแก๊สมากมาย ได้แก่ “อู่เฉพาะกิจ” ที่ตั้งเต็นท์รับติดตั้งให้ลูกค้า ซึ่งเปิดง่าย ก็ปิดง่าย ตามธรรมชาติ , “อู่ลูกผสม” ที่รับติดตั้งแก๊สเป็นงานเสริม จากธุรกิจหลัก เช่น คาร์แคร์ , ซ่อมแอร์ , ทำช่วงล่าง , อู่ ซ่อมรถ เป็นต้น ก็ยกป้ายรับติดแก๊สลงกันหมดรวมถึง “อู่ติดแก๊สโดยเฉพาะ” อย่างเดียวกับเรา ก็ทนภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว จึงต้องยอมปิดกิจการไป

สำหรับ เราแล้ว คุณมงคลมองว่า แนวโน้มของราคาน้ำมันจะต้องเพิ่มขึ้นตามกลไกของความต้องการในตลาดโลกอย่าง แน่นอน จึงยังยืนหยัดในธุรกิจนี้ต่อไป โดยต้องลดค่าใช้จ่าย นั่นคือ การหยุดต่อสัญญาเช่า สำหรับอู่ติดตั้งแห่งแรกของเรา เมื่อครบกำหนด 1 ปี เป็นการยุติชื่อ “แก๊ส-คาร์-เทพารักษ์” นับจากวันนั้น โดยไม่มีการเลิกจ้างพนักงานแม้แต่คนเดียว

mongkol4.jpg

ยุคที่ 6 : เปิดหน้าร้านในโลกไซเบอร์อย่างเต็มตัว ( มี.ค. 2550 )

ข้อดีอย่างหนึ่งของช่วงเวลาที่ตลาดซบเซาของเราก็คือ เรามีเวลาพัฒนาเวปไซต์ของเราเองได้อย่างเต็มที่ โดยที่คุณมงคล จะเป็นผู้ที่สนใจเกี่ยวกับทางด้าน IT เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงได้ให้เวลาในการใส่ข้อมูลลงในหน้าร้านออนไลน์ ที่ชื่อ www.mongkol.co.th ได้อย่างเต็มที่ รวมถึงด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบแบ่งปันประสบการณ์ความรู้ มาตั้งแต่ที่ทำงานเป็น ติวเตอร์ และวิทยากร ในโครงการต่างๆ จึงทำให้คุณมงคลได้เริ่มในส่วนของ webboard ที่ เป็นเวทีถาม-ตอบปัญหาสำหรับผู้ใช้แก๊สรถยนต์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์เวปไซต์ผ่านสื่อต่างๆในอินเทอร์เนต จนเวปไซต์ของเราเป็นที่รู้จัก ไม่น้อยกว่า หน้าร้านของเราเองเลย รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่รู้จักเราจากหน้าเวปไซต์ มีมากพอๆกับลูกค้าที่ได้รับแนะนำต่อๆกันมา

ยุคที่ 7 : แก๊สกลับมาบูมอีกครั้ง ( เม.ย. 2550 )

จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อนอะไรที่แก๊สจะกลับมาบูมอีกครั้ง เพราะเมื่อราคาน้ำมันขยับขึ้นอีกเรื่อยๆ จนไปใกล้ระดับ 30 บาท อีกครั้ง คนที่ยังลังเลก็เลยตัดสินใจง่ายขึ้นในการนำรถมาติดตั้งแก๊ส ในการกลับมาบูมครั้งนี้ แตกต่างจากครั้งที่แล้ว โดยสิ่งที่แตกต่างไปอย่างชัดเจนคือ ผู้บริโภค หรือ ลูกค้านั่นเอง ทั้งนี้เพราะ ในช่วงแก๊สบูมครั้งแรก ลูกค้าตัดสินใจติดแก๊สด้วยอารมณ์ โดยมีข้อมูลน้อย ทำให้ตัดสินใจเร็ว บ้างก็แฮปปี้ บ้างก็ไม่แฮปปี้ ตามคุณภาพของผลงานและค่าใช้จ่ายที่เจอ แต่ในช่วงแก๊สบูมครั้งนี้ ลูกค้าใช้เหตุผลมากขึ้น อีกทั้งยังมีข้อมูลมากขึ้น จากสื่อต่างๆ และเสียงสะท้อนจากผู้ที่ติดตั้งไปก่อนหน้านี้ ทำให้การตัดสินใจติดตั้งละเอียดมากขึ้น จนบางครั้ง เราเองยังรู้สึกว่า ลูกค้ารู้มากกว่าเราด้วยซ้ำในบางเรื่อง

ใน ช่วงนี้ ไม่เพียงแต่ลูกค้าที่มีการพัฒนาไป เราเองก็ได้มีการพัฒนาในหลายๆด้าน เพื่อให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของตลาด ทั้งการคัดเลือกอุปกรณ์เฉพาะเกรดสูงมาติดตั้ง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจ, การ ไปอบรมความรู้ใหม่ๆ รวมถึงอุปกรณ์ใหม่ๆที่ใช้งานได้ดีกว่าที่ใช้อยู่เดิม รวมถึง การทำการตลาดที่ทำให้คนรู้จักเรามากยิ่งขึ้น เรียกได้ว่า เมื่อลูกค้าไม่หยุดนิ่ง เราก็หยุดนิ่งไม่ได้เช่นกัน ซึ่งทีมงานของเราทุกคน ได้รับการปลูกฝังให้คุ้นเคยกับคำว่าไม่หยุดนิ่ง มาตลอด

mongkol2.jpg

ยุคที่ 8 : ก้าวไปสู่การเป็นอู่มาตรฐาน ( ธ.ค. 2550 )

ด้วย การเติบโตของตลาดติดตั้งแก๊สที่ทำให้ความคาดหวังของผู้บริโภคสูงขึ้น รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กรมการขนส่งฯ กรมธุรกิจพลังงาน และ ปตท. ได้ออกมาเป็นกรอบที่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับผู้ประกอบการในธุรกิจติดตั้งแก๊สแล้ว อาจมองว่าเป็นทั้งอุปสรรค และโอกาส ซึ่งในส่วนนี้ เรามองว่า ถ้าเรามีความพร้อมในด้านต่างๆ ซึ่งโดยหลักก็ควรต้องมีอยู่แล้วถ้าต้องการเดินต่อไปในธุรกิจนี้ นั่นก็หมายความว่า ความเคร่งครัดในเรื่องกฎระเบียบต่างๆที่มากขึ้น จะเป็นโอกาสที่ดี สำหรับเราได้อย่างแน่นอน เพราะการที่เราทำได้ตามมาตรฐานต่างๆที่กำหนด เราย่อมเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง รวมถึงกลุ่มลูกค้าของเราด้วย

จึงเป็นที่มาให้เราต้องก้าวสู่การลงทุนครั้งใหญ่ ในการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ทั้ง สถานที่ เครื่องมือ บุคคลากร และระบบงาน ให้พร้อมรองรับตลาดที่เติบโตขึ้น แต่ยากลำบากขึ้น ได้อย่างดีที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ นั่นคือ จุดเปลี่ยนที่เรา พัฒนาที่ดินขนาด 1.5 ไร่บนถนนศรีนครินทร์ ติดถนนกาญจนาภิเษก ให้เป็นศูนย์ติดตั้งแก๊สรถยนต์มาตรฐาน แห่งใหม่ของเรา หรือ อู่ติดตั้งแห่งที่ 3 และจะเป็นแห่งที่เราจะยึดเป็นที่มั่นในการให้บริการกับลูกค้าของเรานับจาก วันที่ 2 ธันวาคม 2550 เป็นต้นไป

ด้วยศักยภาพของทีมงานติดตั้ง ที่เราทำงานร่วมกันมายาวนาน และ ทีมงานต้อนรับ ที่พร้อมให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่ครบถ้วน เรามั่นใจว่าจะให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ ภายใต้สถานที่ ที่พร้อมรองรับรถติดตั้งได้อย่างเต็มที่ รวมถึงระบบงานที่เรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงแค่ได้ตามมาตรฐานที่หน่วยงานของรัฐกำหนด แต่ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อว่า ไม่มีคำว่าหยุดนิ่ง ถ้าเรายังเดินอยู่ในธุรกิจนี้

ยุคที่ 9 : วิกฤติพลังงานทั่วโลก ( พ.ค. 2551 )

แม้ว่าการนำรถมาติดตั้งแก๊ส จะเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก มาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังน้อยมากเมื่อเทียบกับกระแสความต้องการอย่างมหาศาล และฉับพลันทันใดที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค. 2551 ที่ราคาน้ำมันสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ จากราคาน้ำมันดิบที่สูงเกินกว่า 100เหรียญ สหรัฐ จากความต้องการน้ำมันเป็นพลังงานในประเทศที่กำลังเติบโตอย่างมาก เช่น อินเดีย และจีน ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกในปลายปี 2551 และการเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันของพวกกองทุนฝรั่ง ทำให้เราได้เห็นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซล สูงกว่า 40บาทต่อลิตรเป็นครั้งแรก

และ นำมาซึ่ง “วิกฤตพลังงาน” ที่ทำให้หนังสือพิมพ์ทุกเช้า โทรทัศน์ทุกช่อง ผู้คนทั้งหลาย ไม่ว่าใคร ประเทศไหนทั่วโลก พูดกันถึงแต่เรื่อง น้ำมันแพง และเป็นผลให้แก๊สรถยนต์ เป็นที่รู้จัก และต้องการอย่างสูงสุดทันที แทบไม่มีใคร ไม่รู้จักคำว่า LPG, NGV รวมถึงปริมาณการติดตั้งแก๊ส เพิ่มขึ้น 4-5เท่า ทันที ซึ่งส่งผลกระทบทั้งทางด้านบวก คือ จำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และทางด้านลบ คือ ความขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ด้านแก๊สรถยนต์ โดยเฉพาะถังแก๊ส และชุดหัวฉีด LPG ที่ ไม่พอกับความต้องการอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นเหตุให้ต้นทุนสินค้าสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด และเป็นการดึงผู้เล่นต่างๆ เข้าสู่การแข่งขันในตลาดติดตั้งแก๊สรถยนต์ แทบทุกจุดในประเทศไทย

mongkol7.jpg

ยุคที่ 10 : แรงดีดกลับที่หนักหน่วง ( ก.ย. 2551)

สถานการณ์ที่น้ำมันราคาสูงขึ้นอย่างฉับพลัน หลายๆคนในยุคนั้นอาจคิดว่า อู่ติดตั้งแก๊สจะต้องกอบโกยรายได้อย่างมากมาย จากจำนวนผู้ต้องการติดตั้งแก๊สที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่ความเป็นจริง หาใช่เช่นนั้นไม่ เพราะแต่ละศูนย์ติดตั้ง มีกำลังการผลิตที่จำกัด จึงไม่สามารถรองรับความต้องการทั้งหมดได้ ขณะเดียวกัน ก็ต้องแบกรับต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถังแก๊ส ที่เหมือนทองคำ เพราะกลายเป็นของมีค่าที่ทุกคนต้องการ จนเราเองในขณะนั้น ต้องไปรอต่อคิวซื้อถังแก๊ส ที่มีมาจำกัดทุกวัน ด้วยราคาที่สูงขึ้น และไม่เพียงพอต่อการติดตั้งในแต่ละวัน

จนกระทั่ง สิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นั่นคือ ราคาน้ำมันลดลงอย่างฉับพลัน ยิ่งกว่าตอนขาขึ้น จากที่ราคาน้ำมันสูงจนใจหาย อยู่ประมาณ 3 เดือน ก็กลับกลายเป็นต่ำลงมากว่าตอนที่ขึ้นไปด้วยซ้ำ แน่นอนว่า ความต้องการติดตั้งแก๊ส ก็ลดลงทันใด ส่งผลให้หลายกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจแก๊สรถยนต์ ก็มีอันเจ็บตัว จากการคาดการณ์ที่ผิดพลาด เช่น ผู้นำเข้าชุดแก๊ส โรงงานผลิตถัง ร้านขายส่ง ที่ต่างก็เร่งสั่งสินค้า หรือ เพิ่มกำลังการผลิตสูงสุด จนทำให้เกิดสถานการณ์ “ของติดมือ” ระบายไม่ทัน จนกลายเป็นต้นทุนจมอยู่ในสินค้า เราเองโชคดี ที่ไม่ได้กักตุนสินค้าไว้มาก และบริหารกิจการด้วยเงินสด จึงยังพอดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ผ่านช่วงเวลายากลำบากอีกครั้ง ที่ครั้งนี้หนักหน่วงกว่าครั้งก่อนมาก เพราะดูเหมือนไม่มีความหวัง และน่าจะเหมือนจุดอวสานของพลังงานทดแทน เพราะแม้แต่รถที่ติดแก๊สไปแล้ว ยังหยุดใช้แก๊สไปเลย ศูนย์ติดตั้งแก๊สจำนวนมากจึงจำต้องยุติกิจการของตนเองไปในช่วงเวลานี้

ขณะที่เราเอง มีโชคเข้าข้างอยู่บ้างที่เรามีงานติดตั้ง NGV ในโครงการของรัฐที่สนับสนุนรถ Taxi ให้เปลี่ยนจาก LPG เป็น NGV ได้โดยรัฐบาลออกค่าใช้จ่ายให้ จึงทำให้ช่างของเรามีงานทำอีกครั้ง ในเดือน พ.ย. 2551 แต่แล้ว ในเดือน ก.พ. 2552 ก็เกิดสถานการณ์พลิกผลันอีกครั้ง เมื่อ ปตท. ยกเลิกโครงการดังกล่าว จึงทำให้เรา เข้าสู่ช่วงเวลาที่ไม่มีงานอย่างแท้จริง โดยขณะนั้นต้องบอกว่า เป็นช่วงเวลาวัดใจ ของเราจริงๆ

ยุคที่ 11 : ธุรกิจแก๊สรถยนต์ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ( พ.ค. 2552 )

หลังผ่านช่วงสงกรานต์มาอย่างเงียบเหงา และไม่เห็นอนาคต แต่เราก็ยังได้รับการสนับสนุนจากฐานลูกค้าเดิมที่เข้ามารับบริการ ทำให้เรามีรายได้บ้าง แม้ว่าจะประสบภาวะขาดทุนทุกเดือนก็ตาม มากบ้างน้อยบ้าง ก็ถือว่าใช้เงินที่หาได้ในช่วงที่ผ่านมา เพื่อเลี้ยงลูกน้องในช่วงนี้ และเพื่อรอความหวังที่สถานการณ์จะดีขึ้น เพราะเราเชื่อว่า พลังงานทดแทน จะเป็นสิ่งที่ตลาดต้องการอย่างแน่นอน

และแล้ว ก็เกิดสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจชีวิตมากขึ้นว่า ความอดทนมีมูลค่าเสมอ โดย เมื่อเราพบแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ นั่นคือ ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามกลไกตลาด จนทำให้ผู้ใช้รถติดแก๊ส หันกลับมาใช้แก๊สอีกครั้งหลังจากเลิกใช้ไปเกือบปี และผู้ใช้รถทั่วไป ที่ทะยอยนำรถมาติดแก๊สเพิ่มขึ้น แม้ว่ายังไม่มาก แต่ทำให้เรามีงานทำ ทุกคนยิ้มออกได้

mongkol1-1.jpg

ยุคที่ 12 : ตลาดที่เป็นของผู้ซื้ออย่างแท้จริง ( 2553 )

ทุกครั้งที่ผ่านช่วงวิกฤต ลูกค้าจะมีการปรับตัวเสมอ อย่างเช่น หลังช่วงตลาดติดตั้งแก๊สซบเซาในปี 2549 ที่ศูนย์ติดตั้งแบบเฉพาะกิจ ปิดตัวลงไปมากมาย พอธุรกิจติดตั้งแก๊สกลับมาสู่ความต้องการอีกครั้ง ลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของศูนย์ติดตั้งแก๊สมากขึ้น ศูนย์ฯที่รับติดตั้งแก๊สเป็นอาชีพหลัก (รวมถึงมงคลออโต้แก๊สด้วย) ก็ได้รับความไว้วางใจมากกว่า ศูนย์ที่ทำหลากหลายธุรกิจ โดยมีแก๊สเป็นงานเสริม

โดยมาในครั้งนี้ หลังตลาดติดตั้งแก๊สเงียบเหงา ผ่านพ้นไป ลูกค้าก็ปรับตัวอีกครั้ง โดยเน้นที่คุณภาพของอุปกรณ์มากขึ้น ไม่เพียงต้องการแค่ความประหยัด หากแต่ต้องการคุณภาพที่ทัดเทียมกับขณะใช้น้ำมันอีกด้วย ส่งผลให้ อุปกรณ์แก๊ส และศูนย์ติดตั้งแก๊ส หลายๆแห่ง สามารถสร้าง Brand ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้าได้มากขึ้น ในช่วงเวลานี้ รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ใช้ ในยุค web 2.0 ที่สามารถแชร์ประสบการณ์การใช้งานระบบแก๊ส กันได้โดยเสรีและรวดเร็วผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต จึงทำให้เกิดสิ่งหนึ่ง ที่เราคิดว่า มันคือ กำแพงอย่างดี ที่กั้นไม่ให้ ผู้เล่นหน้าใหม่ หรือ ผู้ที่มีเงิน แต่ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจในงานติดตั้งแก๊ส ให้แห่กันเข้ามาสู่ธุรกิจนี้เมื่อตลาดเปิดอีกครั้ง เพราะธุรกิจมีความซับซ้อนและความคาดหวังสูงขึ้นอย่างมาก

เราเอง ในฐานะที่อยู่ในธุรกิจนี้มายาวนาน (เมื่อเทียบกับศูนย์ติดตั้งแก๊สยุคใหม่) จึงต้องมีการพัฒนาคุณภาพในทุกด้าน ทั้งการเลือกใช้อุปกรณ์แก๊สที่มีคุณภาพ การติดตั้งที่ได้มาตรฐานและสวย

งาม การบริการที่ดี เพื่อให้ทันกับความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้น หรือก็คือ มาตรฐานที่สูงขึ้นของธุรกิจติดตั้งแก๊สนั่นเอง

ยุคที่ 13 : ยกระดับมาตรฐานศูนย์ติดตั้ง  ( ต.ค. 2553 )

จากระยะเวลา 5 ปี ที่เราได้เข้าสู่ธุรกิจติดตั้งแก๊ส หรือระยะเวลา 3 ปี ที่เราได้ย้ายที่ตั้งมายังที่ปัจจุบัน นี่คงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่เราจะทำการขยายกิจการ และพัฒนากิจการในหลายๆด้าน เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น และเพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ให้ทันกับความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นทุกวันของลูกค้า โดยเพิ่มบริการ ทั้งในส่วนของการติดตั้งแก๊ส และการบริการที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้น สำหรับรถที่ติดตั้งแก๊สแล้ว

รวมถึงภาพลักษณ์ที่ทันสมัย และใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น โดยนำในส่วนของ Social Network มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ จากที่เราได้ริเริ่มการใช้งาน Twitter กับ Facebook มาตั้งแต่เดือน ส.ค. 2552 ซึ่งน่าจะเป็นธุรกิจติดตั้งแก๊ส ที่นำเครื่องมือทางด้านการเชื่อมต่อกับลูกค้ามาใช้ เป็นรายแรกในประเทศไทย โดยทุกท่านสามารถ พบความแตกต่างที่เรามงคลออโต้แก๊ส พร้อมนำเสนอให้กับทุกท่านได้ จากหน้าเวป ที่จัดรูปแบบใหม่ทั้งหมดของเรา ได้ตั้งแต่วันนี้ ที่นี่  www.mongkol.co.th

อยากให้ทุกท่านมีส่วนร่วมกับประวัติศาสตร์ยุคต่อไปของเรา

mongkol5.jpg