เพื่อนๆ หลายคนอาจสงสัยว่า…หากเจอในกรณีอย่างนี้จะต้องทำอย่างไร แล้วในส่วนนี้ใครจะเป็นที่ต้องรับผิดชอบ ทางบริษัทประกัน เจ้าของ หรือทางห้าง Insurefriend มีคำตอบให้ เพื่อนๆ ลองเข้าไปอ่านบทความนี้กันนะคะ
ในแต่ละปี มีรถหายวันละคัน!!
จากสถิติปี พ.ศ. 2561 จากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มีการแจ้งความเรื่องรถหาย จำนวน 369 คัน หรือเฉลี่ยวันละ 1 คัน กันเลยทีเดียวนะคะ ทั้งนี้ ถ้าหากรถของเราเจอเหตุการณ์แบบนี้จะต้องทำอย่างไร?
1. โทรแจ้งตำรวจค่ะ เพื่อนๆ สามารถโทรแจ้งตำรวจผ่านสายด่วนรถหาย เบอร์ 1192 เพื่อความรวดเร็วในการติดตามและสกัดจับ โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คข้อมูลความจริง แล้วทางศูนย์ก็จะส่งข้อมูลเพื่อดำเนินการสกัดจับ รวมไปถึงยังจะมีการประสานงานกับทาง สถานีวิทยุต่างๆ เช่น จส.100 ร่วมด้วยช่วยกัน สวพ 91 และมูลนิธิต่างๆ อีกด้วย สำหรับการแจ้งข้อมูลไปยังด่านเพื่อสกัดจับน้ันจะใช้เวลาเพียงแค่ 3-4 นาทีเท่านั้นค่ะ
โดยตอนโทรแจ้งต้องบอกรายละเอียดข้อมูลดังต่อไปนี้
- ชื่อ – นามสกุล
- ข้อมูลในบัตรประจำตัวประชาชน เช่นเลข 13 หลัก กรุ๊ปเลือด
- ยี่ห้อรถ, สีของตัวรถ, และตัวอักษรเลขป้ายทะเบียนรถค่ะ
2.แจ้งความที่โรงพักเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ พร้อมหลักฐานเป็นทะเบียนรถที่สูญหาย ไปแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ด้วยค่ะ
3.โทรแจ้งบริษัทประกันภัยและไฟแนนซ์ที่เราทำเรื่องไว้อยู่ เพื่อแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นให้ทราบและดำเนินการในลำดับต่อไป
4.ติดต่อบริษัทประกันรถยนต์เพื่อรับเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่เรามีการทำประกันรถยนต์ไว้ ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเกิดเหตุขึ้นจริงทางบริษัทประกันก็จะทำเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
5.ติดต่อบริษัทไฟแนนซ์ที่เราทำเรื่องผ่อนรถด้วยเพื่อแจ้งเรื่องรถหาย ทั้งนี้เราไม่ต้องชำระค่างวดต่อ แต่ต้องรับผิดชอบในส่วนของเบี้ยปรับและค่าธรรมเนียมต่างๆตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าซื้อ หากคุณไม่แจ้งไฟแนนซ์ว่ารถหาย อาจถูกไฟแนนซ์แจ้งความในข้อหายักยอกทรัพย์ได้ครับ เรื่องนี้พี่กู๊ดขอย้ำว่าต้องระวังดีๆ นะ
แล้วถ้ารถหายในห้างล่ะ..ใครรับผิดชอบ ?
ถึงแม้ว่าการที่เราจอดรถในบริเวณที่ลานจอดรถของห้าง หรือสถานที่อื่นๆ เช่น สนามบิน ไม่เรียกว่าเป็นสถานที่รับฝากรถ ทางห้างจะไม่ได้รับผิด เนื่องจากไม่ได้ถือเป็นการฝากทรัพย์ทางกฎหมายค่ะ แต่ก็ต้องรับผิดชอบในเหตุประมาทเลินเล่อจนเป็นเหตุให้เสียหายต่อทรัพย์สินตาม ป.พ.พ. มาตรา 420 ค่ะ
ทั้งนี้ หากเกิดเหตุรถหายขึ้นมาจริงๆ ในฐานะที่เราเป็นเจ้าของรถก็จะต้องมีหลักฐานยืนยันว่าได้เข้ามาใช้บริการห้างดังกล่าวจริงๆ เราแนะนำว่า ควรเก็บใบเสร็จในการซื้อสินค้าไว้เป็นหลักฐานค่ะ และจะต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันรถหายนะคะ เพราะถ้าเกิน 1 ปี คดีจะขาดอายุความก็เป็นไปได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม Insurefriend ขอแนะนำว่าทุกครั้งที่จอดรถในสถานที่ต่างๆ นั้น เราก็ไม่ควรประมาทนะคะ การไม่ล็อครถ หรือสตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ อาจเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เจ้าของรถต้องเฉลี่ยความรับผิดชอบร่วมกับทางห้าง หรือเปิดโอกาสให้ห้างอาจปฏิเสธความรับผิดชอบทั้งหมดก็เป็นได้เช่นกันค่ะเพื่อนๆ
ประกันภัยรถยนต์ ที่คุ้มครองกรณีรถหาย
กรณีรถหายเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่สามารถเคลมประกันได้!! (สำหรับผู้ที่ทำมีประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส เท่านั้นนะคะ) ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าทางกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทว่าจะให้เงินค่าชดเชยอยู่ที่เท่าไหร่ค่ะ