นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถล้วนไม่อยากให้เกิดขึ้นกับรถคู่ใจของตัวเอง เพราะถ้าวันหนึ่งเราขับขี่รถบนท้องถนน แล้วดันต้องมาเจอกับพี่ๆ สิงห์นักบิด!! ที่ขึ่รูดช่องว่างระหว่างเลนแล้วดันมาเฉี่ยวกระจกมองข้างรถเราเข้าให้!! ถ้าไม่เสียหายก็นับว่าโชคดี แต่ถ้าถึงขั้นชนกระจกแตกหักห้อยโตงเตง แล้วยังขับหนีไปโดยไม่ดูดำดูดีเลยนี่สิ จึงเกิดเป็นคำถามต่อมาว่าแล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดี ? จะเรียกร้องให้ใครมาชดใช้ค่าความเสียหายได้บ้างล่ะ วันนี้ InsureFriend มีคำตอบมาให้เพื่อนๆค่ะ
แน่นอนเหตุการณ์นี้เมื่อรถจักรยานยนต์ที่ชนรถของเราขับหนีไป อีกทั้งเรายังจำเลขทะเบียนของคู่กรณีไม่ได้อีก ก็ถือว่าอุบัติเหตุครั้งนี้คุณไม่มีคู่กรณีทันที อย่างแรกที่เจ้าของรถหรือผู้ขับขี่ต้องทำก็คือ ให้แจ้งบริษัทประกันและแจ้งความกับตำรวจไว้ด้วยตามความสัตย์จริง ไม่ต้องพยายามหาคู่กรณีมาสวมรอยนะคะ เพราะจะยิ่งทำให้ยุ่งยากเข้าไปอีก
สำหรับการแจ้งเคลมบริษัทประกันรถยนต์ที่ทำไว้ ขอให้ทำการแจ้งทันทีที่เกิดเหตุ แจ้งเคลมผ่านศูนย์รับแจ้งทางโทรศัพท์หรือผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นก็ได้เช่นกันค่ะ ซึ่งการแจ้งเหตุทันทีเมื่อเจ้าหน้าที่รับแจ้งสอบถามข้อมูลการเกิดเหตุเบื้องต้นแล้ว จะพิจารณาถึงการจัดส่งเจ้าหน้าที่สำรวจภัยมาช่วยเหลือท่าน ณ จุดเกิดเหตุทันที เช่น ถ้าพิจารณาแล้วจุดนั้น เป็นจุดที่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่สำรวจภัยจะทำการประสานงานกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่เพื่อขอให้ช่วยประสานงานเพื่อดูกล้องวงจรปิดช่วงของการเกิดเหตุ ซึ่งถ้ากล้องสามารถบันทึกป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ไว้ได้ ก็เป็นโอกาสหนึ่งที่จะทำให้พนักงานสอบสวนสามารถออกหมายเรียกเจ้าของรถจักรยานยนต์คันนั้นมาสอบสวน และเข้าสู่กระบวนการติดตามผู้กระทำความผิดหรือทำให้รถยนต์เสียหายต่อไป ทั้งนี้ เอกสารประกอบการเคลมที่บันทึกของพนักงานสอบสวนสามารถระบุป้ายทะเบียน หรือรายละเอียดอื่นๆ ของรถคู่กรณี ได้ครบถ้วน ทั้งหมวดตัวอักษรและหมวดจังหวัด จะเป็นประโยนชน์อย่างมากต่อการที่ประกันภัยจะละเว้นไม่เรียกเก็บค่าเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขของ คปภ. ในข้อที่ระบุไว้ว่า ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ กรณีถูกคู่กรณีเฉี่ยวชนและไม่สามารถระบุรายละเอียดของคู่กรณีได้ ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรกเฉพาะกรณีนี้ต่อเหตุการณ์ ๆ ละ 1,000 บาท สำหรับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1
นอกจากนี้ หากท่านทำประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 + หรือ 3+ ที่คุ้มครองเฉพาะการชนกับยานพาหนะทางบก รถยนต์ของท่านยังได้รับการซ่อมแซมไปก่อน หากบันทึกประจำวันของ พนักงานสอบสวน สามารถระบุป้ายทะเบียนของคู่กรณีได้ชัดเจน ไม่ได้ถือว่าเป็นการถูกเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี ซึ่งประกันภัยรถยนต์ประเภท 2 + และ 3+ จะไม่คุ้มครองการถูกมอเตอร์ไซค์ชนแล้วหลบหนี เมื่อเกิดเหตุถูกเฉี่ยวชน แจ้งเหตุให้บริษัทประกันทราบโดยทันที เพื่อบริษัทประกัน จะได้พิจารณาการช่วยเหลือและการให้คำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับการติดตามหาข้อมูลคู่กรณี และจะทำให้รถยนต์ที่เสียหายได้รับความคุ้มครองภายใต้เงื่อนไขของกรมธรรม์
ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกทำประกันภัยรถยนต์ 1 , 2 , 2+,3+ หรือประเภท 3 เพื่อนๆ พร้อมทำประกันชั้นไหน ก็เลือกให้เหมาะสมกับการขับขี่และการใช้รถให้มากที่สุด ที่สำคัญเพื่อความชัวร์ควรติดกล้องในรถไว้ก็เป็นการดี เพราะหากเกิดเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้นมา ก็สามารถนำภาพมาใช้เป็นพยานหลักฐานสำคัญได้ค่ะ
สุดท้ายก็อย่าลืมเพิ่มความอุ่นใจในการเดินทาง ด้วยการเลือกซื้อประกันรถกับ InsureFriend นะคะ ประกันรถที่พร้อมบริการคุณตลอดเวลา กับราคาที่แฟร์กว่า ลองเข้ามาเช็คเบี้ยกันดูก่อนได้นะ
สนใจสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกันภัย หรือบริการด้านต่างๆของเรา สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-759-9400, 094-964-5464 หรือเฟสบุ๊ค InsureFriend หรือแอดไลน์ด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่างก็ได้เช่นกันค่ะเพื่อนๆ