8 เทคนิคป้องกัน การโจรกรรมรถยนต์
1. จอดรถต้องระวัง
การจอดรถไม่ว่าจะจอดในที่ส่วนบุคคลที่สาธารณะ แม้จอดทิ้งไว้ระยะสั้นหรือนานเพียงใดเพื่อไปทำธุระหรือทำงานก็ตาม ไม่ควรจอดไว้ห่างไกล ควรมีคนเฝ้าดูแลหรือยาม รปภ. ก่อนทิ้งรถควรไปตรวจสอบ การล็อคกุญแจประตูและใช้ อุปกรณ์กันขโมยให้ครบถ้วน อย่าทิ้งทรัพย์สินสิ่งของมีค่าไว้ในรถล่อตาคนร้าย บางครั้งรถไม่หายแต่ของหาย ข้อควรระวังในการจอดที่สำคัญก็คืออย่าจอดรถทิ้งไว้ค้างคืนบนถนน ไม่ว่าจะมีเครื่องป้องกันการโจรกรรมรถชนิดใดก็ตาม และอย่าทิ้งกุญแจรถไว้ที่รถ เมื่อจอดรถลงไปทำธุระไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
- จอดรถในบ้าน…ใช่ว่ารถจะไม่หาย
บางคนคิดว่าจอดรถในบ้านนั้นปลอดภัยที่สุดเพราะอยู่ในรั้วบ้านของเราเอง แต่นั่นล่ะอันตราย เพราะคุณไม่ได้นอนเฝ้ารถตลอดเวลา แล้วเวลากลางคืนก็เป็นฤกษ์งามยามดีในการออกโจรกรรมรถตามบ้าน เพราะฉะนั้นการจอดรถในบ้านก็ต้องมีวิธีในการรักษาความปลอดภัยแบบง่ายๆ ก็คือจอดรถในบ้านต้องเอาท้ายรถออกนอกบ้าน ล็อครถและใช้อุปกรณ์กันขโมย หรือติดตั้งโคมไฟให้ส่องสว่างให้มองเห็นทั้งในและนอกรั้วบ้านหากจำเป็นต้องจอดรถนอกบ้าน ควรจอดชิดขอบทางหน้าบ้านให้มองเห็นได้ ลงจากรถและก่อนขึ้นไปนอนก็ต้องดูว่าล็อคกุญแจและอุปกรณ์กันขโมยเรียบร้อยแล้วแน่นอน หากมีความจำเป็นต้องจอดรถยนต์ไว้บนถนนหน้าบ้าน ควรมียามรักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแลรถตลอดเวลาโดยประสานความร่วมมือกับเพื่อนบ้านใกล้เคียงที่ใช้รถ และจอดรถไว้ในลักษณะเดียวกัน เพื่อช่วยเหลือกันในเรื่องค่าจ้างของยามรักษาความปลอดภัย
- จอดรถในห้าง…สารพัดอันตราย
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าจอดรถในห้างสรรพสินค้านั้นแสนจะสบายมีคนคอยดูแลตลอดเดินช้อปปิ้งกันเพลิดเพลิน แต่คุณคิดผิดเพราะด้วยบรรยากาศในลานจอดรถที่ทั้งมืดและเงียบทำให้อันตรายเป็นอย่างยิ่ง จริงอยู่ว่าทุกห้างนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแล แต่คุณต้องจำไว้ว่ารถนั้นมีเป็นพันๆ คันเข้าออกในแต่ละวันเจ้าหน้าที่ไม่มีทางดูแลได้ทั่วถึง ซึ่งเป็นช่องทางให้คนร้ายเข้ามาทำการขโมยรถเราได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับวิธีล่าสุดที่ใช้กับรถที่จอดในห้างก็คือ เอากระดาษหนังสือพิมพ์กับกาวไปแปะไว้ที่กระจกหลังรถ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เอะใจอะไรพอเปิดรถสตาร์ทเครื่อง ช่วงที่กำลังจะถอยออกก็มองไม่เห็นจำเป็นต้องลงจากรถมาดึงกระดาษออก ที่นี้แหละพวกโจรก็ย่องขึ้นรถที่สตาร์ทอยู่ขับออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระเป๋าเงินที่วางไว้ในรถ หรือวิธีเดิมๆที่ใช้กันมานานแล้ว แต่ก็ยังหลอกเจ้าของรถมือใหม่อยู่ได้เสมอๆ นั่นก็คือการเอาก้อนหินหรือว่าวัสดุอะไรก็ตามทีมีวางไว้ที่ล้อหลังของรถเมื่อเจ้าของเดินมาก็ไม่ทันสังเกตเห็น (อีกตามเคย)ก็ต้องลงมาดูตอนที่จะถอยรถแล้วทีนี้ก็เข้าล็อกของพวกนี้เลย
วิธีแก้ไขหรือป้องกันนั้นไม่ยากเพียงแต่คุณต้องทำให้เป็นนิสัยก็คือ ก่อนออกรถหรือเมื่อมาถึงรถอย่ามัวแต่กังวลว่าจะต้องจัดของใส่รถหรือแต่งตัวแต่งหน้า โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลาย แต่คุณควรสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติกับรถของคุณหรือไม่ทั้งด้านหน้ารถและหลังรถ ถ้าพบว่ามีอะไรที่ผิดแปลกไปก็ให้เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ใกล้ที่สุดมาช่วยดู อย่าดูเพียงลำพัง เพราะคนร้ายก็กำลังหาช่วงเวลาที่คุณเผลออาจจะเข้ามาทำร้ายได้
2. รถใหม่ – รถเก่าก็ต้องเอาใจใส่เท่ากัน
หากคุณมีรถใหม่ควรติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเพิ่มเติม เช่น เปลี่ยนกุญแจใหม่ ติดตั้งชุดล็อคเกียร์ ล็อคครัช ล็อคพวงมาลัย และสัญญาณกันขโมย คนร้ายชอบขโมยรถใหม่ๆ เนื่องจากขายต่อได้ง่ายมีราคาสูงโดยเฉพาะบรรดารถยอดนิยมต่างๆ อาทิ รถปิคอัพ รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และรถเก๋งรุ่นใหม่ๆ เมื่อเจ้าของรถได้รถมาใหม่มักยังไม่ติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเมื่อจอดไว้ในที่ไม่ปลอดภัยคนร้ายฉวยโอกาส โจรกรรมรถไปได้โดยง่ายๆ หรือเมื่อคุณจะตกลงซื้อรถเก่าจากเจ้าของหรือจากผู้ขายตามเต็นท์ขายรถต้องขอหมายเลขเครื่องหมายเลขตัวถังและสำเนาทะเบียนรถ มาตรวจสอบกับทะเบียนรถในท้องถิ่นที่รถนั้นจดทะเบียนไว้เสียก่อนเพราะอาจเป็นรถที่ไม่ถูกต้องหรือขโมยมาสวมทะเบียน เมื่อซื้อรถมาแล้วควรต้องเปลี่ยนกุญแจและติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยเช่นเดียวกับรถใหม่พึงระมัดระวัง ระลึกอยู่เสมอว่าคนร้ายจ้องรอโอกาสขโมยรถของคุณอยู่
3. กุญแจรถ เรื่องสำคัญ
มีรถบางชนิดใช้กุญแจรถดอกเดียวกันสำหรับเปิดประตูติดเครื่องยนต์เปิดลิ้นชักและฝาน้ำมัน ดังนั้นเมื่อฝาน้ำมันหายอาจเป็นไปได้ว่าคนร้ายได้นำไปเพื่อทำแบบสร้างกุญแจปลอมสำหรับนำมาใช้ในการโจรกรรม ฉะนั้นหากฝาถังน้ำมันหายควรรีบเปลี่ยนกุญแจที่ใช้กับรถเสียใหม่โดยใช้ กุญแจที่ใช้เฉพาะแห่งเท่านั้น และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
4. ระวัง การใช้อุปกรณ์กันขโมย
เมื่อติดตั้งอุปกรณ์กันขโมยแล้วการใช้อุปกรณ์ต้องเก็บเป็นความลับเฉพาะผู้ที่ไว้ใจได้ เพราะอุปกรณ์บางอย่างใช้รหัสเฉพาะหรือสัญญาณรีโมทการไปจอดรถในที่ต่างๆ จึงควรระวังคนร้ายอาจคอยสังเกตวิธีการใช้อุปกรณ์กันขโมยของท่านและติดตามไปหาโอกาสโจรกรรมรถของคุณในภายหลัง
5. รถคุณถูกติดตามจะทำอย่างไร
กรณีสังเกตรู้ว่ามีผู้ขับรถติดตามรถท่าน ให้สันนิษฐานว่าเป็นคนร้ายไว้ก่อนเพราะอาจตามไปฉวยโอกาสขโมยรถเมื่อคุณจอดรถทิ้งไว้ในที่ไม่ปลอดภัยหรืออาจประทุษร้ายต่อชีวิตร่างกายและทรัพย์สินของคุณ ดังนั้นเมื่อรู้ว่าถูกติดตามจึงควรป้องกันโดยพยายามขับรถเข้าไปในเขตชุมชน ขอความช่วยเหลือและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน
6. จดจำตำหนิรูปพรรณ
คุณควรจดจำข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถของคุณไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะตำหนิรูปพรรณพิเศษอื่นๆโดยถ่ายเอกสารทะเบียนรถเก็บไว้รวมทั้งถ่ายรูปรถของคุณให้ปรากฏรอยตำหนิพิเศษ เก็บรักษาไว้เป็นหลักฐานกรณีรถหายจะได้นำมาแจ้งให้ตำรวจตรวจสอบสกัดจับได้อย่างรวดเร็วทันการณ์ หากรถของคุณยังไม่มีตำหนิ ควรทำขึ้นไว้ในจุดที่ผู้อื่นไม่สามารถสังเกตเห็นและจดจำไว้ให้แม่นยำ
7. รถจักรยานยนต์ต้องล็อคล้อล่ามโซ่
เนื่องจากมีสถิติรถจักรยานยนต์หายมากที่สุดเพราะคนร้ายขโมยไปได้ง่าย หรือยกขึ้นรถอื่นได้สะดวก การจอดรถจักรยานยนต์ นอกจากจะล็อคกุญแจคอกุญแจล้อแล้วควรล่ามโซ่ไว้ให้แข็งแรงด้วยและอย่าจอดทิ้งไว้ในที่เปลี่ยวหรือที่ลับตา
8. ระวังการนำรถไปซ่อม-รับบริการ
แก็งคนร้ายอาจจะเป็นช่างซ่อมรถหรือผู้ให้บริการตามอู่ซ่อมรถ หรือสถานบริการบำรุงรักษารถ มีความชำนาญระบบกลไก ของรถ อาจลักลอบทำกุญแจผี หรือทำลายระบบกันขโมย แล้วติดตามไปโจรกรรมรถของคุณในภายหลัง จึงควรระมัดระวัง ควรอยู่ดูแลการซ่อมหรือการบริการอื่นๆ อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องทิ้งรถไว้ให้ซ่อม หรือบำรุงรักษา จะต้องเป็น ผู้คุ้นเคยหรือ ไว้ใจได้เท่านั้น
ที่สำคัญเมื่อ “รถหาย” ถึงแม้ว่าจะตกใจแทบบ้าคุณก็ควรมีสติ ให้รีบแจ้งรายละเอียด แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุทราบโดยเร็ว หรือโทรหมายเลขพิเศษ “1192” ของ(ศปร.ตร) ตลอด24ชั่วโมง เพื่อความรวดเร็วในการติดตามสกัดจับคนร้าย และเพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวสาร, ข้อมูลของรถที่ถูกโจรกรรม ไปยังหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง